ประเด็นที่ 1

Black berry กระเเสนิยิมหรือ

ความจำเป็นของคนไทย

เนื่องด้วยว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันมีการพัฒนาไปในแนวทางที่รวดเร็วและหลากหลาย จึงทำให้หลายๆ คนคิดว่าสิ่งไหนคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของแต่ละบุคคลที่ต้องการหามือถือมาใช้ให้ตรงกับความจำเป็น แต่ตอนนี้กระแสโทรศัพท์มือถือที่มาแรงที่สุดคือโทรศัพท์ยี่ห้อ Blackberry เนื่องด้วยมือถือรุ่นนี้มีความพิเศษที่แตกต่างกับมือถือยี่ห้ออื่นๆ และมีรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยและโฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร และบริการนี้เน้นไปที่การใช้งานทางธุรกิจ จุดเด่นก็คือสามารถเข้าถึง e-mail ได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยระบบ Push mail ซึ่งก็คือระบบจะส่งต่อ email มาที่เครื่อง BB ทันทีเมื่อมี email เข้ามา โดยผู้ใช้งานไม่ต้องใช้โทรศัพท์ต่อเข้า internet ก่อนเพื่อไปดูด email มาที่เครื่องอีกแล้ว และสามารถส่ง email จากเครื่อง Blackberry กลับไปได้ทันทีเหมือนกัน ความสามารถของเครื่องก็ทำให้สามารถเปิดไฟล์แนบได้หลายแบบ ตัวเครื่องก็ราคาไม่ธรรมดาและสัญญาค่าใช้บริการรายเดือนก็ไม่ธรรมดา 800 บาทขึ้นไป จึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดเมืองไทยมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของวัยรุ่นและอาจรวมไปถึงคนวัยทำงาน เนื่องจาก Blackberry มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น

- รับ-ส่งอีเมล์แบบอัตโนมัติ

- BlackBerry เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ในตัว

- ระบบรักษาความปลอดภัยจากการโจรกรรมข้อมูลที่มีความสำคัญของเรา

- สามารถติดตามความเคลื่อนไหวข้อมูลสำคัญของบริษัทได้

- เข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้ง่ายๆ เพียงกดปุ่มเดียว

- เชื่อมต่อ GPRS ตลอดเวลา

- ไม่พลาดนัดสำคัญ จัดตารางนัดได้อย่างลงตัว

จึงทำให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อมือถือในตอนนี้ ได้เก็บ Blackberry ไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการสรรหามือถือเพื่อให้ตรงกับความจำเป็นมากที่สุด

แต่ในอีกด้านหนึ่งของสังคมไทย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Blackberry นั้น ได้เป็นที่รู้จักกันและเป็นที่นิยมอย่างมากจากภาพยนตร์เรื่อง Gossip Girls ซึ่งในเนื้อหานั้นเป็นหนังที่วัยรุ่นสาวๆ ใช้ Blackberry ในการส่งข้อมูลหรือในการนัดหมายต่างๆ โดยการ chat คุยในกันระบบเครือข่ายเดียวกันโดยการสมัครเป็นรายเดือน เพียงเดือนละ 300 บาท ที่ได้ออกโฆษณาทางโทรทัศน์ในเครือข่าย AIS สามารถเล่นอินเตอร์เน็ตและส่งข้อมูลข่าวสารในความเร็วสูง 3G ได้ เหมือนกับการเล่น MSN ในเมืองไทย จึงทำให้ Blackberry เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และเป็นกระแสที่มาแรงที่สุดในสังคมในตอนนี้ มองไปทางไหนก็มักจะเห็นวัยรุ่นถือ BB (เป็นชื่อเรียกโดยย่อของ Blackberry) กันทั้งนั้น เห็นได้ตั้งแต่นักเรียนม.ปลาย นักศึกษามหาวิทยาลัยและอาจรวมไปถึงพนักงานบริษัท หรือแม้กระทั่งดารานักแสดงต่างๆ ที่เวลาสื่อมวลชนถามก็มักจะบอกว่าใช้ Blackberry ด้วยความที่สื่อทางโทรทัศน์นั้นได้ออกโปรโมทสินค้าและเราก็ได้เห็นผ่านตากันทุกวันจึงทำให้ Blackberry นั้นติดตลาดในเมืองไทยได้ในเวลารวดเร็ว

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ดิฉันคิดว่า Blackberry นั้นเป็นกระแสมากกว่าความต้องการหรือความจำเป็นที่ผู้คนต้องการใช้ เห็นได้จากโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีการพัฒนาที่คล้ายๆ กันทั้งในเรื่องของการใช้งานและราคาที่เหมาะสมกับสินค้า ส่วน Blackberry นั้นดิฉันคิดว่ามีราคาที่แพงจนเกินไปสำหรับความจำเป็นของวัยรุ่นไทย แต่ด้วยความที่มีรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย มี Option มากมายให้เลือกสรร จึงเป็นที่ต้องการสำหรับวัยรุ่นยุคใหม่ที่ตามยุคตามกระแส อย่างที่พูดกันว่า “อะไรที่คนอื่นว่ากันว่าดี ว่ากันว่าใช้แล้วจะเป็นผู้นำ ก็มักจะเป็นที่ต้องการในหมู่วัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่” จึงทำให้ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Blackberry นั้นเป็นกระแสนิยมมากกว่าความจำเป็นของคนไทยในการเลือกใช้มือถือในปัจจุบัน แต่ดิฉันคิดว่าสำหรับวัยรุ่นนั้นเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า เพราะเครื่องโทรศัพท์ที่มีแป้นพิมพ์ QWERT ที่ราคาย่อมเยากว่า และมีหน้าตาสวยงามกว่าก็ยังมีให้เลือกอีกหลายรุ่น ถ้าเอามาใช้ร่วมกับ Package GPRS/EDGE แบบ Unlimited ก็ได้ซึ่งรวมๆแล้วน่าจะลงทุนน้อยกว่าลงทุนใน BlackBerry โดยเฉพาะช่วงนี้เศรษฐกิจไทยไม่ค่อยดี อะไรที่เราช่วยพ่อแม่ประหยัดได้ก็ควรประหยัดไว้ดีกว่าค่ะ

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/multipurpose

ประเด็นที่ 2

การรับ SMS ในมือถือ

เป็นการรับข่าวสารจำเป็นหรือสิ้นเปลืองเงินทอง

ยุคนี้การรับและส่ง ข้อความสั้น (Short Message Service หรือ SMS) เป็นวิธีการสื่อสารแบบใหม่ที่สะดวกรวดเร็ว และเป็นที่นิยมอย่างมาก ถึงแม้ข้อดีของ SMS คือ รวดเร็วทันใจเข้าถึงเป้าหมายได้ตรงตัว และเพื่ออำนวยความสะดวก เราสามารถรับข้อมูลข่าวสารและสิ่งที่เราต้องการทราบได้ หรือให้ประโยชน์กับนักศึกษาในการรับข่าวสารที่เกี่ยวกับการเรียนการสอนจากคณาจารย์และหน่วยงานต่างๆ เช่น การประกาศเกรด แจ้งงดการเรียนการสอน เป็นต้น และยังเป็นการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นด้วย แต่ข้อเสียของการรับ SMS ในมือถือก็มีไม่น้อยเหมือนกัน แล้วใครจะรู้ว่าเทคโนโลยีในยุคไซเบอร์ จะกลับกลายเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพตักตวงผลประโยชน์ โดยอาศัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้บริโภคถ้ารับหรือใช้บริการมากเกินหรือหลงเชื่อกลโกงที่มาพร้อม SMS โดยง่าย ก็จะเป็นการเสียเปรียบและสิ้นเปลืองเงินทองไปโดยคุณไม่รู้ตัว โดยเฉพาะกรณีที่ผู้บริโภคได้รับ SMS เชิญชวนให้ร่วมเล่นเกมส์ตอบคำถามผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อลุ้นรับรางวัลต่างๆ ผู้บริโภคที่หลงเชื่อ เพราะคิดว่าเสียเงินเพียง 3 บาท แต่มีโอกาสได้ลุ้นรางวัลใหญ่ๆ จึงตัดสินใจสมัครเล่นเกมผ่านทาง SMS ทางผู้จัดรายการจะกระหน่ำส่งคำถาม SMS มาหาเราวันละ 4-6 ข้อความ แต่บางคนก็ไม่ได้ตอบกลับไปจึงคิดว่าถ้าไม่ได้สมัครคงไม่เสียเงิน แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดเพราะในความเป็นจริงแล้ว ทุกข้อความ SMS ที่ทางผู้จัดรายการส่งหาผู้บริโภคจะถูกคิดค่าใช้จ่าย "ในการรับข้อความ" ครั้งละ 4 บาท ทั้งที่ผู้บริโภคส่วนมากไม่เคยทราบมาก่อนเลย ว่าการรับ SMS จะต้องเสียเงินถึงครั้งละ 4 บาท ซึ่งกว่าผู้บริโภคจะรับทราบ รับรู้เงื่อนไขในการเล่นเกมผ่าน SMS ที่มีการซุกกลวิธีจัดการด้วยการเอารัดเอาเปรียบเช่นนี้ ก็เมื่อผู้บริโภคตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในระบบโทรศัพท์โดยไม่รู้ที่มาที่ไปของยอดเงินถูกหักออกไปจนหมด

นอกจากนี้ ยังมีระบบที่ให้ส่งข้อความ SMS ไปยังผู้บริโภครับปลายทาง เป็นระบบการส่ง SMS จากเว็บไซต์ โดยจะส่งข้อความไปให้เสมือนว่าข้อความนั้นส่งผ่านจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้บริโภคเอง (หมายเลขผู้ส่งจะเป็นหมายเลขเดียวกันกับหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเรา) โดยจะมีข้อความชี้ชวนให้เข้าเว็บไซต์แห่งนั้นแห่งนี้ ด้วยการใช้จุดล่อคือให้บริการส่ง SMS ฟรี! เพื่อเชิญชวนให้เข้าไปใช้บริการอย่างมาก หรือโดนค่าบริการ SMS แพงๆ โดยที่ไม่รู้ตัวโดยที่ไม่เคยได้รับข้อความและข้อสำคัญเลย และยังไม่ได้ยินยอมที่จะสมัครใช้บริการ ทันทีที่ใช้มือถือเล่นเน็ตแล้วคลิ๊กไปที่ เว็บไซด์ใดๆ ก็ตามที่เปิดให้บริการโหลดต่างๆ แต่ทันทีที่เราเข้าไปนั้นระบบของเว็บจะสมัครให้เราโดยอัตโนมัติทั้งๆ ที่ตัวเราเองยังไม่ได้สมัคร สุดท้ายการรับ SMS ในมือถือก็เป็นการสูญเสียเงินไปโดยไม่มีประโยชน์ตอบกลับ

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ดิฉันคิดว่าการรับข้อมูลข่าวสารทาง SMS นั้นก็มีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ในทางกลับกันปัจจุบันการรับข่าวสารทาง SMS มีแต่ผลเสียโดยส่วนใหญ่ เพราะมีผู้ที่หวังรวยทางลัดโดยใช้ช่องทางนี้เป็นการตักตวงผลประโยชน์มีเยอะมาก ซึ่งบางทีเราก็ไม่ทราบว่าจะเป็นบริการแบบไหน ดังนั้นดิฉันจึงคิดว่าเราต้องศึกษาดูให้ดีก่อนว่าบริการที่ส่งมานั้นเป็นประโยชน์ต่อเราหรือไม่ ถ้าไม่มีเราสามารถโทรกลับไปที่ศูนย์ในเครือข่ายของเราเพื่อทำการยกเลิก แต่นั่นเราก็ยังต้องเสียเงินอีกโดยป่าวประโยชน์

ที่มา :

• http://www.ocpb.go.th สายด่วนผู้บริโภค 1166
• หนังสือพิมพ์มติชน(คอลัมน์: ฉลาดทันโลก ผู้บริโภคยุคใหม่: แฉกลโกงเล่น SMS หวังโชคกลับต้องเสียเงิน)
• http://www.matichon.co.th/khaosod/
• comp_center@bu.ac.th
• http://www.thaigoodview.com/node/23372
• http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T8830137/T8830137.html
  

ประเด็นที่ 3

iPhone คนไทยใช้ประโยชน์หรือ

ใช้แค่ความบันเทิงเพียงอย่างเดียว

iPhone เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตและมัลติมีเดีย และการทำงานของ iPhone จะแตกต่างจากโทรศัพท์มือถืออื่น โดย iPhone จะไม่มีปุ่มสำหรับกดหมายเลขโทรศัพท์ จึงทำให้กระแสของ iPhone ช่วงนี้ดังมากและเป็นที่ต้องการของคนทุกรุ่นทุกวัย ถึงแม้ว่า iPhone เริ่มจะมีข้อด้อยหลุดออกมาให้ทราบกันบ้างแล้ว แต่ก็มีข้อดีน่าใช้อยู่เยอะไม่น้อยเช่นกัน เพราะ iPhone เปรียบเสมือนโทรศัพท์สารพัดประโยชน์ เพราะเป็นรูปแบบการให้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้คุณประหยัดค่าโทรศัพท์ เหมาะกับ แบบใช้กับองค์กร (Corporate) และแบบใช้ตามบ้าน (Home User) โดยการใช้บริการ iPhone จะเป็นการให้บริการภายในประเทศ ใช้โทรเข้ามือถือ และโทรออกไปต่างจังหวัดเป็นหลัก โดยมีความโดดเด่นที่ระบบหน้าจอที่สามารถอ่านการทำงานมากกว่าหนึ่งจุดสัมผัสในเวลาเดียวกัน เช่นใช้นิ้วจิ้มลงบนหน้าจอสองนิ้วแล้วถ่างนิ้วออก ในโปรแกรมดูรูปภาพ ก็จะเหมือนว่าเราซูมภาพได้ เพราะว่ารองรับ Multi Touch ประสิทธิภาพในการดูหนังฟังเพลงดีเยี่ยม เพราะเป็นจุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้ และเชื่อมต่อกับ iTune มี EDGE และ Wi-Fi ตัวเครื่องขนาดบาง หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ เหมาะสมกับการใช้งานอินเตอร์เน็ต รับ – ส่งอีเมลล์ เต็มตากับการชมวีดีโอ และยังคงไม่ทิ้งคุณสมบัติเครื่องเล่นเพลง ที่ควบคุมการเล่นเพลงด้วยปลายนิ้วสัมผัสบนหน้าจอ ผู้ใช้สามารถทำการโทรออกได้จากรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ หรือบันทึกรายการโทร มีฟังค์ชั่นตัดเสียง (Mute) สนทนาผ่านลำโพง (Speaker phone) ในส่วนของการส่งข้อความก็สะดวกในการพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดเสมือนจริงบนหน้าจอแบบ QWERTY ท่องโลกอินเตอร์เน็ตกับ Safari browser แสดงได้เต็มหน้าเว็บเพจพร้อมฟังค์ชั่นการซูม ที่ควบคุมได้แค่ปลายนิ้ว iPhone ยังเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี เพราะมี Google Maps แสดงแผนที่ และภาพถ่ายดาวเทียม พร้อมรับข้อมูลทางด้านการจราจร นอกจากนี้ยังมี Widgets ที่คอยรายงาน สภาพภูมิอากาศให้คุณแบบ Real time และด้วยความไฮเทคของ iPhone ที่มี accelerometer หรือเซ็นเซอร์ วัดความเร่ง 3 แกน ที่ใช้วัดว่า iPhone มีลักษณะของการวางอย่างไร เช่น อยู่แนวนอน , แนวตั้ง , หรือกำลังทำมุมอยู่กี่องศากับพื้น ทำให้สามารถนำเอาความไฮเทคนี้มาประยุกต์ใช้กับแอพพิเคชั่นต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมดูรูป , safari , iPod ที่จะแสดงผลตามลักษณะที่เราถือหรือจับ iPhone ไว้ และถึงแม้ว่า iPhone ของ Apple จะเป็นของเล่นใหม่ที่ใครๆ ก็อยากได้ อย่างไรก็ตามของทุกอย่างย่อมมีข้อจำกัดของมันเอง ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อข้อมูลช้า ถึงแม้ว่า iPhone จะสนับสนุนทั้ง EDGE และ Wi-Fi แต่ส่วนใหญ่จะใช้ EDGE มากกว่า เนื่องจาก ถ้าคุณอยู่ในรัศมีของ Wi-Fi เพื่อให้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่บ้าน แต่เมื่อคุณเดินหรือขับรถ คุณจะเข้าสู่บริการ EDGE ซึ่งทำงานได้ช้ากว่า คุณจะเห็นว่า ถึงแม้ว่า iPhone จะเป็นของใหม่ที่ใครก็ปรารถนาแต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาก่อนซื้อหามาใช้ และถ้าข้อจำกัดเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องการ หรือเป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

ดิฉันคิดว่า iPhone น่าจะเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่ง เพราะว่าในชีวิตประจำวันของเราแต่ละวันนั้น ย่อมไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน บางทีคนเราอาจจะเครียดหรือเมื่อยล้าจากการทำงาน ในขณะที่ iPhone นั้นสามารถเป็นได้ทุกอย่างที่คุณต้องการได้ภายในเครื่องเดียว โดยที่คุณนั้นเสียเงินซื้อเพียงแค่ครั้งเดียวแต่ก็ถือว่าคุ้มกว่าที่คุณจะต้องไปซื้อของหลายๆ ชิ้นเพื่อสนองความต้องการในแต่ละวัน ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองเงินมากกว่าด้วย

ที่มา :

• http://www.mrpalm.com/list3.php?cont_id=881
• http://www.csloxinfo.com/netplus.asp
• http://www.beartai.com/webboard/index.php?topic=11925.msg68632#msg68632
• http://msmobiles.com/

ประเด็นที่ 4

“ มือถือเชื่อมเน็ต ” เปิดโลกการเรียนรู้หรือเปิดช่องโหว่ภัยคุกคามเยาวชน

Internet เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ต่อเชื่อมถึงกันอยู่ทั่วโลก และเป็นสื่อที่เข้าถึงได้ทั่วโลกอีกเช่นเดียวกัน สามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและตลอดเวลา ได้รับข้อมูลล่าสุดนาทีต่อนาทีพร้อมกันทั่วทุกมุมโลก โดยไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ โดยที่เราไม่ต้องรอรายงานข่าวต้นชั่วโมงเหมือนกับวิทยุ โทรทัศน์ หรือข่าวในวันรุ่งขึ้นจากหนังสือพิมพ์รายวัน สามารถสื่อสารกันได้ในหลายลักษณะไม่ว่าจะเป็นการใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า “E-Mail” หรือการสื่อสารในทันทีทันใด เช่น ICQ แม้กระทั่งการสื่อสารที่มีทั้งภาพและเสียง ซึ่งปัจจุบันเราทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่า อินเตอร์เน็ต เป็นสื่อที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลมากที่สุด มากกว่าสื่ออื่นๆ และปัจจุบัน เราใช้สื่ออินเตอร์เพื่อหางาน หาแหล่งความรู้ การจับจ่ายซื้อของ ความบันเทิง และหาเพื่อนพูดคุย จนบางคนแทบไม่ได้คุยกับคนในบ้านเลย เพราะทั้งวันได้แต่คุยสนทนาออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต เห็นว่าปัจจุบัน อินเตอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนในสังคม โดยเฉพาะสังคมเมืองเป็นอย่างมากในเมื่ออินเตอร์เน็ตมีความสำคัญกับการดำเนินชีวิตมากเพียงนี้ผู้ที่สนใจจึงควรที่จะมีความเข้าใจในเรื่องอินเตอร์เน็ตก่อนที่จะเข้าสู่โลกไซเบอร์อย่างเต็มตัว และคุณอาจเห็นประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตมากมาย หลายคนอยากใช้อินเตอร์เน็ต แต่อาจยังไม่รู้ถึงภัยของโลกไซเบอร์ ภัยตามร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นภัยที่คุกคามเยาชน เพราะว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่พ่วงมาด้วยฟังก์ชันสุดล้ำยุค แม้ทางหนึ่งจะถูกยกว่าเป็นความสำเร็จของการพัฒนาทางเทคโนโลยีแต่อีกทางหนึ่งความสามารถที่เหนือกว่าการเป็นเพียงอุปกรณ์สื่อสารด้วย เสียงได้นำพาภัยคุกคามมาสู่ผู้ใช้ที่ยังไม่มีวุฒิภาวะจะตัดสินใจได้ว่าสิ่ง ที่พวกเขาได้รับ และเห็นอยู่นั้นเหมาะสมแล้วหรือไม่ ซึ่งภัยร้ายที่แฝงมาพร้อมกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่กำลังขยายพรมแดนสู่การใช้ งานบนมือถือ ได้เริ่มทวีความวิตกกังวลให้พ่อแม่-ผู้ปกครองคิดหาหนทางที่จะสามารถควบคุม ดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือส่วนตัวของบุตรหลานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการควบคุมดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กๆ จากการใช้งานภายในบ้านทำได้ง่ายกว่าการใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้ถูกวางฐานะให้เป็นของใช้ส่วนตัว ทั้งยังเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการใช้งานอย่างอิสระสำหรับผู้ใช้ทุกคน และในปัจจุบันการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนมือถือก็มีประสิทธิภาพสูง

ดิฉันคิดว่า ควรจะมีมาตรการที่คุมการใช้เว็บไซด์ต่างๆ และช่วยควบคุมดูแลในการให้บริการที่ ถูกที่ถูกทางเพื่อไม่ให้เกิดการใช้ที่ผิดประเภทและเป็นการใช้ที่ไม่พึงประสงค์ เพราะปัจจุบันนี้ประชากรอายุระหว่าง 12-13 ปี ราวๆ 70% ก็มีมือถือเป็นของตัวเองแล้ว และครอบครัวก็น่าจะเข้มงวดในการดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กๆ ปัญหาเรื่องของค่าใช้มือถือพฤติกรรมทางสังคม และการใช้มือถือในโรงเรียนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้องเพิ่มความ เข้มงวดในการออกกฎระเบียบควบคุมการใช้มือถือของเด็กๆ มากยิ่งขึ้น เพราะว่าภัยในโลกไซเบอร์ตอนนี้มีมากมาย เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะมาในรูปแบบไหน ถ้าหากว่าเราป้องกันตัวเองไว้ก่อน สิ่งเหล่านั้นก็จะไม่มีทางเกิดกับบุตรหลานหรือเยาชนไทยได้อย่างแน่นอน


ที่มา :

• บทความจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


• http://www2.rsu.ac.th/file/law/4-law.html


• http://www.esanmobile.com/topic/detail.php?g_id=2&sg_id=3&t_id=0800000253

ประเด็นที่ 5

แรงจูงใจ ทางบวก - ทางลบ อย่างไร

ในการเลือกใช้มือถือ

ในปัจจุบันมนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางกระแสวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งเป็นยุคของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม แรงผลักดันของระบบทุนนิยมมักจะมาจากความต้องการที่จะบริโภคสินค้าในเวลาใดเวลาหนึ่งของมนุษย์ ซึ่งยุคโลกาภิวัฒน์จะเป็นยุคที่มีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความเจริญด้านวิทยาศาสตร์ ความเจริญด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร เครื่องมือสื่อสาร ทำให้มนุษย์มีวิถีชีวิตผูกพันอยู่กับสิ่งที่เป็นวัตถุ ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางกระแสวัฒนธรรมแห่งการบริโภค เนื่องจากความต้องการของมนุษย์ไม่มีขีดจำกัด มนุษย์จึงมีความต้องการในการบริโภคสิ่งต่างๆ และพยายามหาสิ่งที่ต้องการนั้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองในการดำรงชีวิต จะเห็นได้จาก ความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ (ปัจจัย 4) อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค และภายใต้กระแสแห่งโลกาภิวัฒน์ ที่มีระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมนี่เอง ทำให้มนุษย์เกิดความ “อยากได้ อยากมี อยากเป็น” ไม่รู้จักคำว่า “พอ” และจะแสวงหาความต้องการนั้นไปเรื่อย ๆ ไม่จบสิ้น
โดยรูปแบบของวัฒนธรรมการบริโภคนั้น จะมีหลากหลาย โดยจะเห็นได้จากการใช้ชีวิตประจำวันของคนแต่ละคน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์กัน เมื่อระบบทุนนิยมเข้ามาในสังคม ทำให้เกิดการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีเพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น และเพื่อรองรับความต้องการของมนุษย์ มนุษย์จึงตกอยู่ภายใต้ ลัทธิบริโภคนิยม ซึ่งจะแสดงพฤติกรรมออกมาในรูปแบบของการลอกเลียนแบบ และตามกระแสแฟชั่น พฤติกรรมการลอกเลียนแบบตามกระแสแฟชั่น ส่วนมากจะมาจากการโฆษณาชวนเชื่อผ่านตามสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร เพื่อที่จะกระตุ้นพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคให้สนใจซื้อสินค้าและบริการ ประเภทเครื่องอำนวยความสะดวก

กระแสวัฒนธรรมต่างชาติ ที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศ ทำให้มนุษย์ในยุคนี้ เติบโตขึ้นมาพร้อมกับชีวิตที่ล้อมรอบด้วยสิ่งที่เป็นวัตถุนิยม และการซึมซับจากสื่อทั้งในประเทศและต่าง ประเทศ จนกระแสวัฒนธรรมต่างชาติ ที่มีความแข็งแกร่งกว่าเข้ามา ทำให้บดบังวัฒนธรรมอันดีงามของไทย รวมทั้งมนุษย์สมัยนี้ยังขาดการกลั่นกรองในการรับสื่อและข่าวสาร จึงกระทำตามในสิ่งต่าง ๆ โดยไม่คิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ วัฒนธรรมการบริโภคที่เป็นไปตามกระแสนิยมนี้ เริ่มแพร่กระจายและแทรกซึมมาในวิถีชีวิตมนุษย์มากขึ้น จนทำให้การบริโภคได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของมนุษย์ไปแล้ว เพราะวิถีชีวิตประจำวันของมนุษย์นั้นผูกพันกับการบริโภคซึ่งปัจจุบันความหรูหรา ฟุ้งเฟ้อ ไม่ได้หยุดอยู่แค่สินค้าแบรนด์เนม หรือกระแสแฟชั่นการแต่งกาย แต่ความหรูหรา ฟุ้งเฟ้อ ได้เข้าไปอยู่ในเรื่องของเทคโนโลยีและเครื่องมือสื่อสารด้วย ดังจะเห็นได้จากการตามกระแสแฟชั่น โดยเฉพาะ กระแสแฟชั่นโทรศัพท์มือถือ ในกลุ่มของวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารได้มีความสำคัญต่อมนุษย์มากขึ้น ทำให้มนุษย์ต้องพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารให้ทันสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ด้วยกันเอง

ดังนั้น เทคโนโลยีการสื่อสารจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ ในยุคที่เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มีความเจริญขึ้น มนุษย์จึงต้องประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือสื่อสารให้มีความทันสมัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และที่สำคัญก็คือ โทรศัพท์มือถือ เพราะทุกวันนี้ กระแสความนิยมในการใช้โทรศัพท์มือถือมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้วิถีชีวิตของหลาย ๆ คนผูกพันอยู่กับโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา ที่ต่างก็เลือกใช้ไปตามไลฟ์สไตล์แต่ละช่วง แต่ละวันของตนเอง ทำให้หลายคนมีโทรศัพท์มือถือไว้ใช้งานกันมากกว่า 1 เครื่อง ซึ่งโทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นปัจจัยที่ 5 หรืออาจจะพูดได้ว่า โทรศัพท์มือถือกำลังกลายเป็นอวัยวะส่วนที่ 33 ของมนุษย์ในโลกปัจจุบันไปแล้วแฟชั่นของโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันออกมาหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ หลายรุ่น ทุกรุ่นล้วนแต่ทันสมัยทั้งสิ้น ราคาก็แตกต่างกันออกไป ตามลักษณะการใช้งาน และตามแต่กำลังทรัพย์ของผู้ที่จะซื้อหามาใช้ ซึ่งปัจจุบันนี้วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา จำนวนมากกำลังตกเป็นเหยื่อของธุรกิจประเภทนี้ การขายสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ ให้กับเยาวชนจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะขายให้กับผู้ใหญ่ เพราะไม่ต้องเสียเวลาที่จะต้องไปโน้มน้าว เพราะจะตัดสินใจเร็ว

ปัจจุบันเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า โทรศัพท์มือถือ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะมีไว้ในครอบครอง ตราบใดที่เทคโนโลยียังพัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่ง ตราบนั้นความต้องการของมนุษย์ก็ย่อมไม่หยุดนิ่งและไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน และเนื่องด้วยอิทธิพลของสื่อและโฆษณาบวกกับค่านิยมทางสังคม ที่ได้ให้ความหมายของโทรศัพท์มือถือไว้มากกว่าเป็นวัตถุหรือเครื่องมือสื่อสารที่ใช้ติดต่อสื่อสารกัน จึงทำให้บุคคลต้องแสวงหา เพื่อให้ได้มาการแสวงหาสิ่งนี้จึงนำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ มากมาย สำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์เพียงพอคงไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับชาวบ้านที่ดำรงชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำที่ตกเป็นทาสของสื่อและโฆษณา การแสวงหาสิ่งเหล่านี้ กลับทำให้พวกเขาต้องเหน็ดเหนื่อยเป็นหลายเท่า โดยจะเห็นได้ว่านักเรียน นักศึกษา เกือบทุกคนจะมีโทรศัพท์มือถือใช้กันทั้งนั้น ซึ่งพฤติกรรมการเลือกซื้อ เลือกใช้โทรศัพท์มือถือของนักเรียน นักศึกษานั้น นิยมเลือกซื้อ เลือกใช้โทรศัพท์มือถือที่มียี่ห้อดัง ราคาสูง ฟังก์ชั่นการใช้งานจำนวนมาก หรือมีโปรแกรมการใช้งานที่หลากหลายและมีลูกเล่นเยอะ อาทิเช่น จอสี สามารถเล่นเกมส์ ฟังเพลง เล่น mp 3 ถ่ายรูป และถ่ายวีดีโอได้ จึงทำให้พ่อแม่นั้นต้องเหนื่อยและอาจเป็นหนี้เป็นสินโดยป่าวประโยชน์

ดังนั้น เทคโนโลยีการสื่อสาร โทรศัพท์มือถือที่มนุษย์ใช้ในปัจจุบัน ในความคิดของคนส่วนใหญ่ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตและการติดต่อสื่อสาร แต่เนื่องจากการสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้าขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้มนุษย์ต้องไล่ตามความ ก้าวหน้า ความทันสมัยนั้น โดยที่จิตใจของมนุษย์กลับไม่ได้พัฒนาตามความเจริญนั้นด้วย เป็นผลทำให้มนุษย์ถูกครอบงำ จากการใช้โทรศัพท์มือถือในที่สุด เพราะต้องการตามให้ทันกับความเจริญก้าวหน้าของนวัตกรรมต่าง ๆ โดยไม่คำนึงถึงความจำเป็นของการใช้งาน หรือมูลค่าของสินค้าและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ตามมา เพียงเพื่อต้องการให้ทันยุคทันสมัย ดิฉันคิดว่าเมื่อความต้องการในการบริโภคโทรศัพท์มือถือของมนุษย์มีเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้มีการแข่งขันกันผลิตสินค้าให้มีความทันสมัยเพื่อดึงดูดใจลูกค้า พร้อมทั้งแฝงค่านิยมต่าง ๆ มาในสินค้านั้นด้วย ซึ่งเป็นการครอบงำมนุษย์โดยที่มนุษย์ไม่รู้ตัวทำให้การบริโภคของมนุษย์ในปัจจุบันนี้ได้ถูกสื่อเป็นตัวกลางในการกระตุ้น ชักจูง และโน้มน้าวให้มนุษย์คล้อยตาม ก่อให้เกิดความต้องการและให้ความสำคัญแก่การบริโภคสินค้าและบริการต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา โดยจะเห็นได้จาก เมื่อคนใดคนหนึ่งมีโทรศัพท์มือถือที่มันสมัย ดูราคาแพง ก็จะทำให้เกิดแรงจูงใจที่อยากได้อยากมีเหมือนคนอื่น เพราะคิดว่าหากมีโทรศัพท์มือถือแล้ว ถ้าไม่ทันยุค ทันสมัย ก็จะทำให้ถูกมองว่าเป็นคนล้าหลัง จึงมีความต้องการอยากได้โทรศัพท์มือถือที่มีราคาแพงนั้น เพียงเพราะคิดว่าการที่มีโทรศัพท์มือถือนั้น เป็นการบ่งบอกถึงฐานะทางสังคมของพวกเขา แต่แท้ที่จริงแล้วเหตุผลเพียงแค่นี้เราไม่ควรเอามาเป็นแบบอย่างหรือปฏิบัติตาม เพราะเรายังอยู่ในวัยเรียน ยังไม่มีงานทำ ยังขอเงินพ่อแม่ใช้ เราควรจะนึกถึงท่านบ้างว่าท่านต้องเหนื่อยแค่ไหน กับการหาเงินเลี้ยงดูเรา แล้วเรายังไม่ช่วยท่านประหยัดอีก เราควรจะเอาเหตุผลนี้มากกว่าที่จะทำตามกระแสสังคมเพื่อทำให้ตนเองนั้นดูดี คนเราไม่จำเป็นต้องมีสิ่งของมาประดับร่างกายเพื่อให้ดูดี แต่ความดูดีของคนเราอยู่ที่พฤติกรรมและการกระทำมากกว่าค่ะ


ที่มา : http://progress427-402.blogspot.com/2007/08/blog-post_561.html

ประวัติผู้ทำ

ยัยเฉิ่ม™ ___ ♥

น.ส.ชุติมณฑน์ ชาญกูล 51123303034
นิเทศศาสตร์การโฆษณา ปี2

ชื่อเล่น ปลายฝน วัน/เดือน/ปีเกิด 14 ตุลาคม 2531
อายุ 21 ปี เพศ หญิง
สัญชาติ ไทย เชื้อชาติ ไทย ศาสนา พุทธ

ที่อยู่ปัจจุบัน

872 ซ.จรัญ 75สกุลชัย 6 ถ.จรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700

E-mail Leamonako_14@hotmail.com
Hi5 http://0878233683.hi5.com/

การศึกษา

• ระดับประถม
  (โรงเรียนอนุบาลโรจนวิทย์ จ.พิษณุโลก)

• ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น - ตอนปลาย

(โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก)

• ระดับอนุปริญญา ปี1

คณะวิทยาลัยนานาชาติ (การท่องเที่ยว)
มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก
ปี1(อีกรอบ) คณะนิเทศศาสตร์ (การโฆษณา)
มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
ปี2 คณะนิเทศศาสตร์ (การโฆษณา)
มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

งานอดิเรก

ฟังเพลง, เล่นอินเตอร์เน็ต, ดูหนัง, ช็อปปิ้ง, เก็บกวาดบ้าน

ความสามารถพิเศษ

พูดภาษาอังกฤษ, พูดภาษาญี่ปุ่น, เป่าขลุ่ย,ใช้คอมพิวเตอร์

สีที่ชอบ
น้ำตาล, ดำ, แดง, ชมพู

อาหารจานโปรด

ข้าวพะแนงหมู (เซเว่น), สุกี้ MK

" สบ๊าย สบาย "